ในหนึ่งวันของคนเรามีเวลาที่เท่ากันเสมอ ไม่ว่าจะเป็นหนึ่งวันของใครๆก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นหนึ่งวันของเมื่อวาน วันนี้ หรือวันพรุ่งนี้ ก็ย่อมมีช่วงเวลาที่เท่ากัน ผมไม่ได้หมายถึงการนับด้วยหน่วยของชั่วโมง นาที วินาที แต่ผมกำลังหมายถึงเมื่อยามพระอาทิตย์ขึ้นในช่วงเช้าและตกไปในช่วงเย็น จวบจนทิวาราตรีที่มืดหม่น จนเมื่อรุ่งเช้าวันใหม่ ยามที่แสงอาทิตย์สาดส่องขึ้นมาอีกครั้ง นั่นคือหนึ่งวันของเรา ทำไมผมถึงอยากให้ทุกคนได้รับรู้ถึงเวลาหน่ะหรอ มันง่ายมากที่จะตอบว่า มันคือ “ต้นทุน” ของคนทุกคน หลายครั้งที่เรามักจะนำตัวเรา หรือใครๆ ไปเปรียบเทียบกับใครอีกคนหนึ่ง โดยจะกล่าวอ้างถึงความร่ำรวย ทรัพย์สินเงินทอง ครอบครัว ความเก่ง รูปร่างหน้าตา หรือแม้กระทั่งบุคลิกภาพ แต่ที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น ล้วนแล้วแต่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เราสามารถทำตัวให้รวยขึ้นได้ด้วยการเก็บออมและรู้จักใช้จ่ายอย่างประหยัด เราจะสามารถมีครอบครัวที่ดีได้ด้วยความเข้าอกเข้าใจ มีคุณธรรมในครอบครัว เราสามารถที่จะเก่งได้หากเรารู้จักขวนขวายหาความรู้ หมั่นฝึกฝนการงานอาชีพของเรา หมั่นเรียนรู้ ตั้งใจและหมั่นคิด วิเคราะห์อย่างสม่ำเสมอ เราสามารถเป็นผู้ที่มีบุคลิกดีได้ด้วยการฝึกตน รู้จักปรับเปลี่ยนการวางตัว วางท่าทาง มีสติและรู้จักการควบคุมร่างกายของเรา บางครั้งเราก็อาจมีรูปร่างหน้าตาที่ดีได้ด้วยการดูแลตนเอง ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หรือ ศัลยกรรม เห็นไหมว่าเราสามารถเปลี่ยนแปลงมันได้ หรือบางครั้งอาจจะเป็นผลที่ตรงกันข้ามด้วยกระบวนการหรือวิธีตรงข้ามกับที่กล่าวมา สิ่งต่างๆ เหล่านี้ผมมองว่ามันไม่ใช่ “ต้นทุน” ของมนุษย์เรา มันควรจะเป็นส่วนประกอบหนึ่งในการดำรงชีวิตของเราเฉยๆ เป็นส่วนประกอบที่เราควรให้ความสำคัญกับมันอย่างน้อยที่สุด แต่เราควรไปโฟกัสที่ เวลา ของเรามากกว่า เพราะสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งเลยนั่นก็คือ เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเวลาในช่วงไหนได้เลย เราสามารถซื้อหวยวันนี้แล้วรอพรุ่งนี้อาจรวยเป็นเศรษฐีในชั่วข้ามคืนได้ เราเปลี่ยนสถานะจากคนจนสู่คนรวยได้ แต่เราไม่สามารถเปลี่ยนเวลาวันนี้เป็นวันพรุ่งนี้ได้ เปลี่ยนวันนี้เป็นเมื่อวานก็ไม่ได้ เอาเวลาของอีกห้าปีข้างหน้ามาใส่ในวันที่สามพันสี่สิบสองของชีวิตเราก็ยังไม่ได้ อีกสิ่งหนึ่งที่มันคล้องเกี่ยวกันกับเวลาคือเหตุการณ์ใดๆ ดังนั้นเมื่อเราเปลี่ยนเวลาไม่ได้เราก็ย่อมเปลี่ยนเหตุการณ์ใดๆ ไม่ได้เช่นกัน เราไม่สามารถเปลี่ยนเวลาเอาช่วงเวลาที่มีคนที่เรารักย้อนกลับคืนมาได้ เปลี่ยนเอาคนที่ตายให้ฝื้นขึ้นมาก็ไม่ได้ หรือเอาช่วงเวลาที่เรารวยกลับมาหลังจากเราล้มละลายไปแล้วก็ไม่ได้เช่นกัน เห็นไหมว่า เวลา จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เป็นต้นทุนที่ทุกคนมีเหมือนกัน มันหมดไปแล้วย้อนคืนมาไม่ได้ หนำซ้ำยังไม่รู้อนาคตว่าเรายังมีเวลาเหลืออยู่เท่าไรอีกด้วย ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนนั้น เอาเวลาที่เรายังมีเหลืออยู่เหล่านั้น ณ ขณะนี้ ไปทำอะไร คุณใช้ไปเพื่ออะไร . . .
ในทรรศนะของฉันกับหนึ่งวันบนดาวเคราะห์ เป็นคอลัมน์หนึ่งที่อยากจะเอาเวลาบางส่วนที่ผมมี นำมาบอกเล่า พูดคุย หรือสื่อสาร สิ่งหนึ่งสิ่งใด ตามเจตจำนงค์ ทรรศนคติ หรือ ความต้องการในการสื่อสารของผม เพื่อที่บางครั้งมันอาจจะเป็นสิ่งที่อาจไปสะกิดช่วงเวลาบางตอนของชีวิตคุณในช่วงหนึ่ง ให้หวลกลับมาคิดไตร่ตรอง เพื่อเรียนรู้บางสิ่ง หรือทำความเข้าใจบางอย่างไปด้วยกัน เราไม่ได้ต้องการเปลี่ยนแปลงเวลาที่มันผ่านเลยมา แต่เราต้องการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีกว่าในเวลาข้างหน้า ที่เราคิดว่ามันน่าจะยังมีอยู่ ให้ดีขึ้น ให้มันสามารถที่จะนำพาชีวิตของเราไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น ด้วยวิธีการใดๆ ก็ตาม
ดังนั้น ที่หน้านี้ จึงทำหน้าที่ในการรวบรวม บทความพิเศษในคอลัมน์ ในทรรศนะของฉันกับหนึ่งวันบนดาวเคราะห์ มารวบรวมไว้เพื่อให้สะดวกในการอ่านนั่นเองครับ
ติดตามเพิ่มเติมได้ที่
สามารถสนับสนุนเราได้ทางช่องทางต่อไปนี้
Lightning network (Tippin Me)
Lightning network (Alby)
Bitcoin
หรือสนับสนุนผ่านช่องทาง Verified creator เพียงแวะชม หรือให้ทริปเราผ่านเว็บบาวเซอร์ Brave