รู้จัก Thailand Elite Card บัตรที่คนไทยไม่ได้ใช้

หลังจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในประเทศไทยเราเริ่มคลี่คลายลง รัฐบาลก็เริ่มมีมาตรการต่างๆออกมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ทั้งการออกมาตรการทางการเงินต่างๆเพื่อช่วยเหลือธุรกิจรายย่อย การยืดกำหนดระยะเวลาชำระหนี้ต่างๆ การเสริมสร้างสภาพคล่องทางการเงินในทุกระดับ การเพิ่มการหมุนเวียนเงินตราในประเทศ อีกทั้งยังมีมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศออกมาอีกมากมาย นอกจากนี้ประเทศไทยเรายังได้มีมาตรการที่เกี่ยวกับการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศโดยมีกฎเกณฑ์เพิ่มเติมเกี่ยวกับการควบคุมและป้องกันโรคโดยเฉพาะ รวมถึงการส่งเสริมการดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ หรือผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพโดยผ่านทางโครงการต่างๆ แต่ที่สะดุดตามากที่สุดน่าจะเป็นเรื่องของระบบบัตรอภิสิทธิที่มีชื่อว่า Thailand Elite Card หรือ บัตรไทยแลนด์ อีลิท นั่นเอง

บัตรไทยแลนด์ อีลิท เป็นบัตรพิเศษที่ทำให้ผู้ถือบัตรนั้นสามารถใช้ชีวิตในประเทศไทยได้อย่างเอ็กซ์คลูซีฟและมันจะเอ็กซ์คลูซีฟขนาดไหน แล้วทำไมคนไทยอย่างเราถึงไม่ได้ใช้มัน มาติดตามไปพร้อมกันกับ A Good Many ครับ

โครงการ Thailand Elite Card เป็นโครงการที่ดำเนินงานในนามของบริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) โดยเริ่มดำเนินงานมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2546 และมีการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)เป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทแต่เพียงผู้เดียว

โดยจุดประสงค์ของบริษัทคือการจำหน่ายบัตรอภิสิทธิ์ไทยแลนด์ อีลิทนี้ให้กับชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้าไทย ซึ่งเน้นเป็นกลุ่มนักธุรกิจ ผู้ประกอบการ นักลงทุน นักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง รวมถึงผู้ที่ต้องการอาศัยพำนักในไทยระยะยาว หรือผู้ที่ต้องการความพิเศษตามแต่ละแพ็กเกจที่เลือกได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่คนไทยอย่างเราใช้บัตรนี้ไม่ได้อย่างไรหล่ะครับ แต่ถึงอย่างไรก็ตามเราลองมาดูสิทธิพิเศษของบัตรนี้ดูว่ามันทำอะไรได้บ้าง แต่ก่อนอื่น เราลองไปชมโฆษณาของทางบริษัทฯกันก่อนครับ

ปัจจุบันบัตรไทยแลนด์ อีลิท มีทั้งหมด 7 ประเภทด้วยกันดังนี้

สมาชิกจะได้วีซ่าอายุ 5 ปี สามารถต่ออายุได้ และสามารถขยายเวลาในการพำนักได้ 1 ปีต่อการดำเนินการหนึ่งครั้ง สิทธิพิเศษเมื่อเดินทางมาถึงและเดินทางออกจากประเทศไทย จะได้การต้อนรับและดูแลแบบ VIP โดยรวมถึงมีผู้ช่วยส่วนตัว (Elite Personal Assistant) เพื่อช่วยเรื่องดำเนินการด้านการตรวจคนเข้าเมืองแบบ Fast-Track ได้สิทธิ์ใช้บริการเลานจ์พิเศษ และรถลีมูซีนจากสนามบินไปยังโรงแรมและที่พัก สามารถทำใบขับขี่ เปิดบัญชีธนาคารและการทำธุรกิจในประเทศไทยได้ อำนวยความสะดวกการรายงานตัวอยู่ในราชอาณาจักรเกิน 90 วัน นอกจากนี้ยังรวมไปถึงสิทธิพิเศษในการใช้บริการกับพันธมิตรที่ร่วมโครงการอื่นๆอีกเช่น ส่วนลดค่าที่พักโรงแรม ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า พร้อมกับได้สิทธิซื้อสินค้าปลอดภาษี นอกจากนี้ยังมีสิทธิพิเศษเพิ่มเติมเป็นฟรีค่าธรรมเนียมการใช้บริการสนามกอล์ฟ ทรีทเมนท์สปาฟรี ตรวจสุขภาพฟรี เป็นต้น

สมาชิกจะได้วีซ่าอายุ 5 ปี สามารถต่ออายุได้ และสามารถขยายเวลาในการพำนักได้ 1 ปีต่อการดำเนินการหนึ่งครั้ง นอกจากนี้ยังได้สิทธิพิเศษคล้ายกันกับแบบ Elite Ultimate Privilege เพียงแต่จะไม่ได้สิทธิพิเศษส่วนลดค่าธรรมเนียมสนามกอล์ฟ ทรีทเมนต์สปาฟรี และการตรวจสุขภาพฟรี

สมาชิกจะได้วีซ่าอายุ 5 ปี สามารถต่ออายุได้ และสามารถขยายเวลาในการพำนักได้ 1 ปีต่อการดำเนินการหนึ่งครั้ง ได้การต้อนรับและดูแลแบบ VIP โดยรวมถึงมีผู้ช่วยส่วนตัวเพื่อช่วยเรื่องดำเนินการด้านการตรวจคนเข้าเมืองได้สิทธิ์ใช้บริการเลานจ์พิเศษ และรถลีมูซีนจากสนามบินไปยังโรงแรมและที่พักแต่จำกัดที่ 18 ครั้ง/ปี และมีตรวจสุขภาพฟรีทุกปีด้วย

สิทธิพิเศษคล้ายกันกับ Elite Privilege Access เพียงแต่จำกัดการบริการรถลีมูซีนจากสนามบินไปยังโรงแรมและที่พักแต่จำกัดที่ 24 ครั้ง/ปี และไม่มีตรวจสุขภาพฟรี

สิทธิพิเศษก็คล้ายกันกับแบบอื่นๆทั้งสมาชิกจะได้วีซ่าอายุ 5 ปี สามารถต่ออายุได้ และสามารถขยายเวลาในการพำนักได้ 1 ปีต่อการดำเนินการหนึ่งครั้ง ได้การต้อนรับและดูแลแบบ VIP โดยรวมถึงมีผู้ช่วยส่วนตัวเพื่อช่วยเรื่องดำเนินการด้านการตรวจคนเข้าเมืองได้สิทธิ์ใช้บริการเลานจ์พิเศษ แต่ไม่มีมีรถลีมูซีนรับส่งรวมถึงการตรวจสุขภาพรายปี

สิทธิพิเศษคล้ายกับแบบ Elite Family Alternative แต่มีบริการรถลีมูซีนรับ-ส่งระยะสั้น 4 ครั้ง/ปี ระยะยาว 6 ครั้ง/ปี และไม่มีตรวจสุขภาพฟรี รวมถึงไม่มีบริการสปาและสนามกอล์ฟด้วย

สิทธิพิเศษก็จะมีเพิ่มเติมจากปกติคือใช้บริการสนามกอล์ฟ 18 หลุมฟรี 10 รอบ/ปี สปาฟรี 10 ครั้ง/ปี พร้อมกับได้สิทธิซื้อสินค้าปลอดภาษีด้วย

ปัจจุบันจากข้อมูลวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ.2563 ที่ผ่านมาพบว่าสมาชิกบัตรไทยแลนด์ อิลิท นั้นมีจำนวนสมาชิก 11,132 ราย ซึ่งเฉพาะในปี พ.ศ.2563 นี้ได้จำหน่ายบัตรไปแล้วถึง 2,674 ใบรวมเป็นมูลค่ากว่า 1,600 ล้านบาทไปแล้ว โดยสมาชิกกว่าครึ่งเป็นทางฝั่งเอเชียครับ ซึ่งกลุ่มลูกค้าชาติต่างๆก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน และแน่นอนว่าการจำหน่ายบัตรไทยแลนด์ อีลิทนี้ต้องอาศัยการให้บริการผ่านตัวแทนจำหน่ายซึ่งในปัจจุบันมีแล้วกว่า 17 รายกระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคทั่วโลก

และนอกจากนี้ผลจากเหตุการณ์โรคระบาดโควิด-19 ทั้วโลกที่ผ่านมายอดการจำหน่ายบัตรไทยแลนด์ อีลิท ก็มีแนวโน้มสูงกว่าปกติในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาด้วย เนื่องจากความมั่นใจของชาวต่างชาติที่เห็นผลดีของการควบคุมโรคระบาดดังกล่าวในไทยที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นผลจากระบบการคัดกรองโรคและระบบสาธารณสุขที่อยู่ในอันดับต้นๆของโลก รวมถึงการบริการสุขภาพและบริการทางการแพทย์ของไทยที่ไม่แพ้ชาติใดในโลกเช่นกัน แนวโน้มการหาที่ปลอดภัยช่วงสถานการณ์โรคระบาดแบบนี้จึงเป็นจุดที่ดึงดูดชาวต่างชาติที่มีกำลังทรัพย์สูงเข้ามาเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ทางบริษัทฯ ยังได้มีการเตรียมการเพิ่มประเภทบัตรเพื่อผู้ที่ต้องการสิทธิพิเศษทางด้านสุขภาพเป็นพิเศษอีกด้วยเพื่อเน้นย้ำความเป็นผู้นำทางด้านการแพทย์ของไทยเรา ทั้งบัตรสำหรับการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม และบัตรสำหรับสิทธิพิเศษในการเข้ารับการรักษากรณีเจ็บป่วยกับโรงพยาบาลชั้นนำในไทย

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการจะเดินเข้าออกประเทศไทยในช่วงก่อนหน้านี้ยังไม่สามารถทำได้สะดวกเท่าใดนักเพราะปัญหาด้านเอกสารจากกระบวนการทางต่างประเทศและกระบวนการทางสาธารณสุขของแต่ละประเทศ แต่หลังจากที่ประเทศไทยเราได้มีการปลดล็อกกระบวนการบางส่วนก็สามารถทำให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาได้สะดวกขึ้น ซึ่งอย่างไรก็ตามต้องผ่านกระบวนการมาตรฐานทางด้านสาธารณสุขที่เข้มงวดของไทยก่อน เพื่อเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยตามขั้นตอนปกติได้ต่อไปนั่นเอง

บัตรไทยแลนด์ อีลิท ที่ทำไมคนไทยไม่ได้ใช้แท้จริงแล้วเป็นเพราะโครงการนี้จัดทำขึ้นเพื่อชาวต่างชาติโดยเฉพาะนั่นเองครับ และต้องเป็นชาวต่างชาติที่มีฐานะพอสมควรเพราะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเพื่อแลกกับสิทธิพิเศษตามแพ็กเกจที่เราต้องการ แต่สุดท้ายแล้วคนที่ได้รับประโยชน์ก็คือคนไทยเรานี่เองที่ต้องพยายามพัฒนาสินค้าและบริการต่างๆเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของชาวต่างชาติกลุ่มต่างๆที่เข้ามาทั้งท่องเที่ยว ทั้งทำธุรกิจ เพื่อให้ผลประโยชน์กลับมาสู่เราคนไทยให้ได้มากที่สุดนั่นเองครับ